
การทำ Remarketing นั้นให้ผลลัพธ์มันก็ค่อนข้างดีสำหรับแคมเปญที่เน้น Performance และเป็นเช่นเดียวกันใน Platform โฆษณาเกือบทุกตัว เป็นจำนวน Conversion จึงไม่แปลกนักถ้าเราจะพูดกันขำๆว่า Remarketing นั้นเป็นพ่อทุกสถาบัน 555 แต่มันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป
สำหรับเว็บไซต์ E-commerce ไม่ว่าจะเป็นรีเทล, สายการบิน, จองห้องพัก, สมัครใช้บริการ และอื่นๆ การทำ Remarketing กลายเป็นวิธีการยอดนิยมในการเพิ่ม Conversion เป็นอย่างมาก เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้ามักจะไม่ซื้อหรือสมัครตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ามายังเว็บไซต์ แต่จะต้องมีระยะเวลาในการตัดสินใจอยู่สักพักใหญ่ ทำให้นักโฆษณาจะต้องมีการทำการตลาดเพื่อกระตุ้นให้คนกลับมายังเว็บไซต์อีกครั้ง
แต่ปัญหาคือเมื่อพบว่าการทำโฆษณาแบบ Remarketing นั้นให้ผลลัพธ์ที่ดี คนส่วนใหญ่ก็ทุ่มเทเม็ดเงินและเวลาเกือบทั้งหมดไปกับการทำ Remarketing และลดการโฟกัสจากการทำโฆษณาแบบอื่นๆลงไป (โดยเฉพาะโฆษณาที่จะช่วยนำพาคนเข้าเว็บไซต์ได้) มาเน้นการทำ Remarketing (โฆษณากับคนที่เคยเข้าเว็บไซต์แล้ว) เพื่อหวังว่าตัวเลขบรรทัดสุดท้ายจะดียิ่งขึ้น ซึ่งก็ฟังดูสมเหตุสมผล แต่มันก็มีผลกระทบตามมาด้วย
เพราะธรรมชาติของ Remarketing คือการทำโฆษณาเพื่อกลับไปกระตุ้นคนที่เคยเข้ามายังเว็บไซต์ของเรา ซึ่งแน่นอนว่าคนกลุ่มนี้ย่อมมีจำนวนไม่มาก ถ้าเราโฟกัสหรือทุ่มเงินการตลาดไปยังคนกลุ่มนี้เพียงอย่างเดียว มันก็จะไม่มีการขยายกลุ่มลูกค้าออกไป ก็จะเป็นกลุ่มเดิมๆที่เห็นโฆษณาอยู่แล้วไม่มีการขยายฐานให้กว้างขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมหลายๆคนบอกว่า พอทำ Remarketing ไปสักพักแล้วผลลัพธ์จะไม่ดีเหมือนเดิม
ดังนั้นถึงแม้ว่านักโฆษณาจะโฟกัสไปที่ Conversion และถึงแม้ว่าแคมเปญแบบ Remarketing จะให้ผลลัพธ์ที่ดีแต่นักโฆษณาก็ต้องบาลานซ์กันให้ดีระหว่างการลงเงินโฆษณาเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในช่วง Upper Funnel จนถึงช่วง Lower Funnel